ใช้ซีซั่นหน้า

 

ฟุตตี้ เฮดไลน์ส สื่อดังด้านผลิตภัณฑ์ของแวดวงลูกหนัง 

แย้มภาพที่บอกว่าเป็นชุดเหย้าตัวใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยตามภาพที่หลุดออกมานั้นถือว่ามีการใช้สีแดงที่เข้มกว่าสีแดงปกติ ส่วน esvaphane แอคเคาท์ใน ทวิตเตอร์ ก็โชว์ภาพที่บอกว่าเป็นชุดเหย้าในซีซั่นหน้าของ ลิเวอร์พูล เช่นกันฟุตตี้ เฮดไลน์ส เว็บไซต์ด้านผลิตภัณฑ์ของวงการฟุตบอลที่มีความน่าเชื่อถือสูง 
เปิดเผยภาพที่อ้างว่าเป็นชุดเหย้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะใช้ในฤดูกาล 2022-23 สำหรับผู้ผลิตชุดแข่งตัวดังกล่าวนั้นยังคงเป็น อาดิดาส แบรนด์ผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลก ซึ่งสีแดงที่เอามาใช้นั้นจะเป็นสีแดงเข้ม ต่างๆ กับหลายๆ ชุดที่ผ่านมาที่จะเป็นสีแดงสดใส และจุดเด่นก็คือตรงคอเสื้อแบบเสื้อโปโล โดยหลักๆ แล้วตรงคอเสื้อจะเป็นสีขาว ดูบอลออนไลน์ฟรี และมีการทำรูปทรงสามเหลี่ยมสีแดงแทรกเข้าไปด้วย ซึ่งตรงสามเหลี่ยมก็จะมีเส้นสีดำ 3 เส้นเช่นกันทั้งนี้ ตรงบริเวณหัวไหล่มีการใส่เส้นสีดำเข้าไป 3 เส้นด้วย ส่วนตรงบริเวณลำคอก็จะมีกระดุมให้ติดกัน อย่างไรก็ตาม ฟุตตี้ เฮดไลน์ส ไม่ได้ระบุว่าชุดเหย้าแบบใหม่นี้จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ขณะที่ esvaphane แอคเคาท์ที่มักจะโพสต์รูปาพชุดแข่งของทีมฟุตบอลนั้น ก็เปิดเผยภาพที่บอกว่าจะเป็นชุดเหย้าตัวใหม่ของ ลิเวอร์พูล ซึ่งโดยรวมแล้วจะเป็นสีแดงทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นตรงลำตัว, คอเสื้อ 
www.zonedooball.com

หรือแขนเสื้อ จะมีเพียงตราสโมสร, โลโก้ของสปอนเซอร์ 
และตราของ ไนกี้ ที่เป็นสีขาว  ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสเปน รับหน้าที่คุมทีมลิเวอร์พูลในปี 2004 ก่อนถูกไล่ออกในปี 2010 หลังจากทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง ทำให้ในปีนั้นพวกเขาจบอันดับที่เจ็ดในพรีเมียร์ลีก ก่อน เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้รับการแต่งตั้งในเดือนตุลาคม 2015
และทำผลงานก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง จนเปลี่ยน ลิเวอร์พูล ให้เป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลกในเวลานี้ซึ่งจนถึงตอนนี้ กุนซือชาวเยอรมัน คุมทัพ "หงส์แดง" ผ่านหลักไมล์ที่ 350 นัดแล้ว ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนเกมที่ ราฟาเอล เบนิเตซ นั่งแท่นกุนซือทีม โดยตามสถิติ คล็อปป์ มีค่าเฉลี่ยแต้มต่อเกมมากกว่า และมีอัตราการชนะที่ดีกว่า และทำสถิติแพ้กับลิเวอร์พูล น้อยกว่ากุนซือชาวสเปนจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ ลิเวอร์พูล ของเบนิเตซ จะยิงเฉลี่ยต่อเกมน้อยกว่า "หงส์แดง"ของคล็อปป์ แถมยุคเจเคพวกเขายังเสียประตูต่อเกมน้อยกว่าด้วยผู้จัดการทีมทั้งสองคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ได้ทั้งคู่ แต่ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกของ คล็อปป์ และ โทรฟี่ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ เป็นการยกระดับทีมที่ชัดเจน กว่าถ้วย เอฟเอ คัพ และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ของ เบนิเตซ   
แม้จะเข้ามารับเผือกร้อนเนื่องจากในตอนนั้นทีมดังแห่ง แอนฟิลด์ รั้งอยู่ในอันดับสิบของตาราง พรีเมียร์ลีก แต่ คล็อปป์ ค่อยๆพัฒนาทีมเป็นลำดับกระทั่ง หงส์แดง ได้เข้าชิงชนะเลิศถ้วย ยูโรปาลีก และ ลีกคัพและในที่สุด เขาก็ประกาศศักดาพา เร้ด แมชีน คว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นสมัยที่หกในซีซั่น 2018/19 ก่อนยุติการรอคอย 30 ปีพาทีมซิวแชมป์ลีกของประเทศเป็นหนแรกในซีซั่นถัดมา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปืนไร้โทรฟี่,โชต้าถูกโฉลกกันเนอร์ส

ฟี่แชมป์แรกของ โซลชา อยู่แค่เอื้อม

เตรียมชิ่งอาร์เซน่อลซบโครินเธียนส์